ทำไม? ต้องกินอาหารไข่

ทำไม? ต้องกินอาหารไข่

 

 

          อาหารไข่ ถือเป็นอาหารเสริมนกประเภทหนึ่ง ในอดีตการเลี้ยงนกกินธัญพืชเป็นหลักนั้น ผู้เลี้ยงมักจะมุ่งเน้นไปที่ ธัญพืช และ ผลไม้ จึงเกิดปัญหาต่างๆตามมามากมาย อาทิเช่น การขาดโปรตีน การขาดแคลเซี่ยม และความสมบูรณ์ของตัวนก ซึ่งจากงานวิจัยเรามักพบว่าปริมาณโปรตีนจากการกินธัญพืชที่หลากหลาย+ผลไม้นั้นมีค่าประมาณ 6%-9% ซึ่งความต้องการโปรตีนที่แท้จริงของนกนั้นกลับอยู่ที่ 14%-19% ประกอบกับ P ในธัญพืชและผลไม้ มักมีค่าค่อนข้างมาก เพราะเป็นธาตุที่มีอยู่ในธรรมชาติและมีความจำเป็นต่อการเติบโตของพืชซึ่งตรงข้ามกับปริมาณแคลเซี่ยมที่มีค่อนข้างน้อย จึงหลีกเลี่ยงปัญหาการขาดแคลเซี่ยมในนกไม่ได้ ซึ่งนกนั้นมีความจำเป็นต้องได้รับแคลเซี่ยมมากกว่าฟอฟอรัส เพื่อใช้ในการสร้างกระดูกและไข่

          จากการสังเกตของนักเลี้ยงนกในอดีต เมื่อนกในธรรมชาติที่ขาดอาหารแสดงออกถึงความไม่สมบูรณ์ มักจะมีการกินไข่ตนเอง จึงเกิดไอเดียการเสริมอาหารนกด้วยไข่ขึ้น เริ่มจากการนำไข่ต้มสุกทั้งใบรวมเปลือกมาบดละเอียดให้นกกิน แต่ด้วยข้อจำกัดที่ความสดใหม่จึงมีความยุ่งยากในการจัดเตรียมอาหารเกิดขึ้น จึงเกิดอาหารไข่สำเร็จรูปขึ้นมา ซึ่งโดย concept จะเป็นการนำไข่มาขึ้นรูปกับแครกเกอร์ หรือ เบเกอรี่โปรดักซ์บางประเภท เพื่อให้ไข่นั้นสามารถฟอร์มตัวขึ้นรูปให้นกหยิบจิกกินได้ สะดวกกับผู้เลี้ยง และยังสามารถเก็บได้นานโดยไม่เน่าเสียคากรงได้ อาหารไข่จึงกลายเป็นอาหารเสริมสำหรับนกยอดนิยมตั้งแต่ ช่วงปี 1970 เป็นต้นมา

          แต่ย้ำอีกครั้งนะครับว่าอาหารไข่เป็นเพียงอาหารเสริม นกทุกตัวจึงไม่มีความจำเป็นต้องกิน โดยเฉพาะนกที่กินอาหารมีคุณภาพอย่าง Nutribird หรือ Prestige ซึ่งมีสารอาหารครบถ้วนอยู่แล้ว จะไม่มีความจำเป็นต้องกินอาหารเสริม หรือถ้ากินก็ไม่จำเป็นต้องกินปริมาณมากๆ

 

 

 

          หนึ่งในคุณประโยชน์ที่อาหารไข่มอบให้กับนกคือ เสริมโปรตีนให้นกที่ขาดแคลน เพราะตัวไข่นั้นมีค่า BV Biological value สูง BV เป็นค่าที่บ่งชี้ถึงคุณค่าทางโภชนาการของโปรตีนในอาหาร ซึ่งเป็นการวัดความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณโปรตีนที่ร่างกายดูดซึมและที่เหลืออยู่ในร่างกายโดยไข่จะมีค่า BV อยู่ที่ 0.9-1.0 ซึ่งสูงกว่าโปรตีนแหล่งอื่นๆอย่าง ปลา นม หรือ แม้แต่ธัญพืชที่นกกินนั้นก็มีค่า BV เพียง 0.5-0.7 เท่านั้น

          การขึ้นรูปง่ายให้เหมาะกับพฤติกรรมการกินของนก และโดยเฉพาะกลุ่มนก พารากีต คีรีบูน นกขนาดเล็ก มีความชื่นชอบอย่างมาก จึงมักจะใช้นอกจากเสริมโปรตีนแล้ว ยังใช้เป็นสื่อในการเสริมวิตามินต่างๆผ่านอาหารไข่อีกด้วย เพื่อลดการผสมวิตามินแร่ธาตุหรือแม้แต่ยาบางชนิดในน้ำนก แก้ไขปัญหานกกินวิตามินหรือยาไม่ถึงขนาดและป้องกันปัญหาน้ำเน่าเสียจากวิตามินหรือยาที่ผสม

          เมื่อหนึ่งในคุณประโยชน์ของอาหารไข่คือการเสริมโปรตีน คุณภาพอาหารไข่ที่ท่านจะเลือกซื้อนั้น จึงจำเป็นต้องดู %โปรตีนของอาหารที่ท่านซื้อ %โปรตีนน้อยย่อมหมายถึงการใช้วัตถุดิบไข่น้อย ซึ่งอาหารไข่คุณภาพต่ำมักจะใช้กันเพื่อลดต้นทุนขายในราคาถูกใจผู้บริโภค แต่ไม่คุ้มค่าต่อเงินที่ท่านเสียไป %โปรตีนอาหารไข่สูตรมาตรฐานในอาหารไข่คุณภาพมักจะอยู่ที่ 16%-18% ส่วนกรณีที่มากเกินไปก็อาจจะเป็นอันตรายต่อตับนกและการเกิดโรคบางอย่างจากโปรตีนที่มีค่าสูงได้ นกแก้วขนาดใหญ่ที่มีความต้องการโปรตีนสูงมัน ref ลูกนกป้อนมีความต้องการโปรตีนอยู่ที่ 19%-21% ในนกโตความต้องการโปรตีนลดลง อยู่ที่ 14%-19% ขึ้นกับสายพันธุ์ จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่อาหารไข่ที่มีคุณภาพมักจะมีค่าโปรตีนอยู่ในช่วง 16%-18%นั่นเองและนี่คือเหตุผลว่าทำไม Delinature จึงทุ่มเทงบประมาณวิจัยและพัฒนาทุกรายละเอียดของอาหารไข่เพื่อสุขภาพนกที่ดีของคุณ

 

 

          หลังจากอาหารไข่มีการใช้อย่างแพร่หลายในนกหลากหลายพันธุ์ เราพบว่ามีปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นเป็นเงาตามตัว นั่นคือปัญหานกอ้วน ไขมันพอกตับ จากการศึกษาเราพบว่า นกอ้วนจากการกินอาหารไข่เป็นประจำมักมีอาการไขมันพอกตับเกิดขึ้น ด้วยปริมาณไขมันที่อุดมอยู่ในอาหารไข่คุณภาพต่ำและหวังผลให้นกนั้นมีความสวยงามอย่างรวดเร็วในระยะสั้นๆอันเป็นสิ่งที่ผู้เลี้ยงนกสังเกตุเห็นได้เร็วและเชื่อว่าสิ่งนั้นคือสิ่งที่ดี ด้วยเพราะไขมันจะช่วยให้ขนนกดูเงางาม และไขมันจะช่วยให้นกนั้นมีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้น รวมถึงไขมันยังช่วยกระตุ้นให้นกกินอาหารได้มากขึ้นด้วย แต่นั้นคือผลที่คุณจะได้รับในระยะสั้น ถ้านกของคุณได้รับไขมันที่สูงเกินไปนานๆ ภาวะไขมันสูง ไขมันเกาะตับ จะก่อให้เกิดผลเสียในระยะยาว

          อาหารไข่ที่ดีจึงพยายามที่จะควบคุมปริมาณไขมันในอาหาร ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างยากเพราะไข่กับไขมันนั้นเป็นของคู่กัน และการควบคุมไขมันในอาหารไข่นั้นจำต้องใช้กระบวนการผลิตชั้นสูงและค่าใช้จ่ายที่สูงเป็นเงาตามตัว แล้วปริมาณไขมันระดับไหนคือ ค่าที่เหมาะกับสุขภาพที่ดีของนก Delinature ใช้สมมุติฐานถึงธัญพืชที่มีปริมาณไขมันน้อยที่สุดที่นกกินเป็นเกณฑ์ ด้วยว่าไขมันนั้นไม่ค่อยขาดในอาหารนกปกติ เราจึงศึกษามาตราฐานจากค่าที่มากที่สุดจากอาหารที่มีน้อยที่สุดในธรรมชาติ นั้นคือ มิลเลต ที่เราเชื่อได้ว่าเป็นธัญพืชที่นกแทบทุกชนิดกินได้และไม่มีการเกิดปัญหาไขมันเกิน ซึ่งมีปริมาณไขมันอยู่ที่ 5%-7% ขึ้นกับสายพันธุ์ แหล่งปลูก และฤดูกาล Delianture สูตร Moist ปกติจึงควบคุมไขมันอยู่ที่ 6% และ ในสูตร Dry ที่ควบคุมอยู่ที่ 1%

 

 

ภมรชัย ซัพพลาย เล็งเห็นถึงความสำคัญของไขมันในอาหารไข่ ประกอบกับกลไกการตลาดที่ผู้บริโภคยังนิยมซื้ออาหารไข่แบบรีแพคด้วยเหตุผลแห่งราคา เราจึงนำเข้าขนาดบรรจุ 10kg มาเฉพาะสูตร Dry เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพนก อาหารไข่สูตร Dry นี้ จะแตกต่างจากสูตร Moist ที่ความหอมน่าทานจะน้อยกว่าเนื่องจากไขมันต่ำ แต่ท่านสามารถเพิ่มความน่ากินด้วยการพ่นน้ำลงไปบางๆเพื่อให้อาหารฟูขึ้น รวมทั้งยังสามารถผสมอาหารเสริมรูปแบบผงอื่นๆเพื่อเสริมสุขภาพนกได้อย่างง่ายดาย อาทิ Calci-lux, Omni-vit, Ferti-vit, Pro-bizyme ฯลฯ

 

 

 

จากนี้หากท่านจะเลือกซื้ออาหารไข่สักถุง ขอให้บทความอาหารไข่ Delinature  ช่วยให้ท่านสามารถเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพนกท่าน และคุ้มค่ากับราคาที่ท่านเสียไป